Logo
TH | EN

คุณพรทิวา นิพาริน นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เป็นประธานเปิดงาน Dinner Talk เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเสริมกำลังใจให้แสมาชิกสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับทุกท่านที่ก้าวผ่านวิกฤต COVID-19มาด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง แม้วิกฤตนี้จะเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคธุรกิจ แต่ก็เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่เร่งให้เกิดการปรับเปลี่ยนในการทำธุรกิจไปสู่รูปแบบออนไลน์มากขึ้น ถือได้ว่า ในวิกฤตยังมีโอกาสเสมอ ซึ่งในงานDinner talk ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศ. ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาทองคำ (MTS Gold) ร่วมบรรยาย

ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ ดร.เอ้ ) ผู้ที่ "คิดต่างและสร้างการเปลี่ยนแปลง” พลิกฟื้นองค์กรจากวิกฤติสู่องค์กรระดับนานาชาติ ได้สร้างแรงบันดาลใจในหัวข้อ “เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส( COVID-19) และสิ่งสำคัญที่จะทำให้การวิกฤตนั้นเป็นโอกาสได้ คือ “รู้โลก รู้คน รู้เทคโนโลยี” ที่เป็นปัจจัยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และ เทรนด์ของผู้บริโภค โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นมากกว่า คำว่า “ปรับเปลี่ยน” แต่จะเป็นการปฏิรูปการทำธุรกิจแบบเดิมให้มีความทันสมัย และ ตรงความต้องการของผู้บริโภค แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่เติบโตมายาวนาน แต่ก็ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีวันใดที่จะสายเกิดกว่าจะปรับเปลี่ยน เพราะตราบที่เรายังปรับได้นั่นก็หมายถึงเรายังคงอยู่ได้ในธุรกิจและโลกแห่งการตลาด

ที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤต COVID-19 ระบาด ทำให้รูปแบบการจัดงานแสดงสินค้า และการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่เติบโตมากขึ้นในตลาดออนไลน์ หรือ แม้แต่ราคาทองคำที่พุ่งทะยานแตะบาทละ 30,000 บาท/บาททองคำได้ ในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนักของ COVID-19

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าราคาทองคำค่อยๆปรับตัวลดลงเมื่อสถานการณ์การระบาดเริ่มผ่อนคลายลงไป ประเด็นนี้ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาทองคำ ประธานกรรมการบริหารของบริษัทในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก ได้วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลรายได้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่รวมทองคำตั้งแต่ม.ค. - ต.ค. ปีนี้เพิ่มมากถึง 20.81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 แต่เมื่อดูข้อมูลการส่งออกที่ไม่รวมทองคำจะพบว่าช่วง 10 เดือนของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปรับตัวลดลงมากถึง 43.69% ข้อมูลข้างต้นนี้ สะท้อนถึงโอกาสที่ดีของนักลงทุน รวมทั้งเป็นสัญญาณที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของไทยได้ดีเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ถ้าในปีหน้าการระบาด COVID-19 สามารถควบคุมได้ และ มีวัคซีนในการป้องกันแล้วก็จะทำให้ส่งผลให้ราคาทองคำเผชิญกับความผันผวนในทางลบ แต่ปัจจัยบวกของราคาทองคำปีหน้า น่าจะยังมาจากการใช้มาตรการ QE หรือ Quantitative Easing ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ทองคำทั่วโลกส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2,300 – 3,000 เหรียญ ขณะที่ความคืบหน้าวัคซีนที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทำให้นักวิเคราะห์จากสถาบันชั้นนำหลายแห่ง เริ่มวิเคราะห์ว่าค่าเฉลี่ยทองคำในปีหน้าอาจไม่ถึง 2,000 เหรียญ สรุปได้ว่า ข้อมูลทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงโลกของการลงทุนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการซื้อทองคำของผู้บริโภค ณ ขณะนี้ คือ "การซื้อเพื่อลงทุน" ในลักษณะทองคำแท่ง แต่การ ซื้อทองคำตามตู้แดงเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับจะหายไปไม่น้อยกว่า 50-60 % อย่างแน่นอน

     

นอกจากนี้สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับยังได้ถือเป็นโอกาสอันดีจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 สรุปผลการดำเนินงานตลอดช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจของสมาชิกสมาคมฯ ในช่วงวิกฤตCOVID-19 ด้วยการประสานความร่วมมือจากสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน และลงนามความร่วมมือร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือ EXIM BANK เพื่อโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียน และ กระแสเงินสดที่จะช่วยพยุงสถานการช่วงระยะฟื้นฟูของธุรกิจ

Related Post

© 2021 TGJTA All Rights Reserved.